• ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.25% ที่ระดับ 94.617 จุด ท่ามกลางแรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่ปรับสูงขึ้นเมื่อคืนวันศุกร์

ขณะที่ค่าเงินปอนด์ปรับอ่อนค่าลง 0.7% สู่ระดับ 1.3087 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับสูงสุดในรอบ 8 วันทำการที่ระดับ 1.3229 ปอนด์/ดอลลาร์ จากข่าวความไม่มั่นคงทางการเมืองอังกฤษ

• นายแพทริก ฮาเกอร์ ประธานเฟดสาขาฟิลาเดเฟีย คาดหวังถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า แม้ว่าจะมีท่าทีระมัดระวังต่อปัญหาเงินเฟ้อในระดับต่ำ นับตั้งแต่ที่เฟดจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมรับมือกับทิศทางของเศรษฐกิจสหรัฐฯที่อาจเผชิญปัญหาใดๆในอนาคต

• บรรดาตัวแทนจากฮ่องกงและทั้ง 10 ประเทศในเขตเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN) ได้ร่วมลงนามในสนธิสัญญาการค้าและลงทุนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังจากที่ใช้เวลาในการเจรจาติดต่อกันถึง 3 ปี ซึ่งคาดว่าจะมีผลในวันที่ 1 มกราคม ปี 2019 การลงนามในสนธิสัญญาครั้งนี้ ถือเป็นการส่งสัญญาณต่อต้านนโยบายเชิงกีดกันการค้า

• รายงานจาก CoinDesk ระบุว่าราคา Bitcoin เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ปรับตัวลดลงกว่า 15% จากบริเวณ 6,500 เหรียญ ลงมาทำระดับต่ำสุดที่ 5,507 เหรียญ ก่อนที่จะฟื้นตัวกลับมาที่บริเวณ 6,400 เหรียญ และลงมาเคลื่อนไหวทรงคัวที่บริเวณ 6,060 เหรียญในช่วงวันเดียวกัน

ขณะที่ รายงานจาก Autonomous Next ระบุว่า หลังจากราคา Bitcoin ปรับร่วงลงมาอย่างมาก ได้ส่งผลให้การซื้อขาย Bitcoin หยุดชะงักลงชั่งคราวในตลาดสหรัฐฯก่อนที่ราคาจะกลับเหวี่ยงขึ้นลงในกรอบ

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า พบบรรดากองทุนจำนวน 120 กองทุน เข้าร่วมลงทุนในตลาดค่าเงินดิจิตอลและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง

• รายงานจากหนังสือพิมพ์ The Sunday Times ระบุว่า สมาชิกพรรคอนุรักษ์นิยมของอังกฤษจำนวน 40 คน เตรียมยื่นหนังสือแสดงความไม่เชื่อมั่นในตัวนางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ

อย่างไรก็ดี การยื่นจดหมายแสดงความไม่เชื่อใจครั้งนี้ ยังคงขาดเสียงอีก 8 เสียง เพื่อที่จะเข้าสู่กระบวนการสอบสวนศักยภาพของนายกรัฐมนตรีที่อาจนำไปสู่เปลี่ยนแปลงผู้นำพรรคได้

ทั้งนี้ อำนาจในการบริหารของนางเมย์ เริ่มสั่นคลอนมานับตั้งแต่การเลือกตั้งก่อนวาระที่จัดขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งพรรคอนุรักษ์นิยมของเธอไม่สามารถครองเสียงข้างมากได้อย่างเด็ดขาด ส่งผลให้เกิดความไม่เชื่อมั่นในตัวเธอภายในพรรค