สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 17 พฤศจิกายน 2560

ข่าว

สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 17 พฤศจิกายน 2560

17 พฤศจิกายน 2560


 

ภาพในบรรทัด 2

· ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ โดยรีบาวน์กลับจากระดับอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 3 สัปดาห์ หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯผ่านร่างกฎหมายภาษียกเครื่องฉบับล่าสุด โดยดัชนีดอลลาร์ปรับขึ้น 0.13% ที่ระดับ 93.933 จุดจากระดับ 93.813 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 20 ต.ค. ขณะที่ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงไป 0.23% ที่ระดับ 1.1764 ดอลลาร์/ยูโร

· สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรแห่งสหรัฐฯเมื่อคืนนี้ ได้ลงมติอนุมัติร่างนโยบายปฏิรูปภาษีของ ส.ส.รีพับลิกัน ให้สามารถดำเนินการในขั้นตอนต่อไปได้ ขณะที่ทางฝ่ายสมาชิกวุฒิสภายังต้องคอยลุ้นการลงมติร่างนโยบายภาษีของพวกเขา ที่คาดว่าจะทำการลงมติได้ภายหลังจากวันหยุดในวันขอบคุณพระเจ้าของสหรัฐฯ (หลังวันพฤหัสบดีที่ 23 พฤศจิกายน)

ทั้งนี้ บรรดา ส.ว. พรรครีพับลิกัน ได้ตัดสินใจใช้นโยบายภาษีเพื่อยกเลิกการบังคับให้ประชาชนทำประกันสุขภาพ ซึ่งเป็นหัวใจหลักของนโยบายโอบามาแคร์ จึงเป็นการเชื่อมโยงนโยบายทั้งสองเข้าด้วยกัน ซึ่งถือว่าเป็นการตัดสินใจที่มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากพรรครีพับลิกันยังคงล้มเหลวที่จะยกเลิกนโยบายโอบามาแคร์

ขณะที่ นโยบายปฏิรูปภาษีของฝั่ง ส.ส. รีพับลิกัน ถูกคาดการณ์ไว้ว่าจะส่งผลให้รัฐบาลขาดรายได้ถึง 1.5 ล้านล้านเหรียญในระยะเวลา 10 ปี จากการปรับลดภาษีนิติบุคคลลงสู่ระดับ 20%จากเดิมที่ระดับ 35% รวมถึงการปรับลดหรือยกเลิกการจ้ายภาษีสำหรับภาครัฐและท้องถิ่น

คณะกรรมธิการด้านการเงินแห่งสภาสหรัฐฯ เมื่อคืนนี้ ได้โหวตให้ ส.ว.รีพับลิกันพิจารณาแก้ไขรายละเอียด ขณะที่ทางฝ่ายรีพับลิกันต้องการจะผลักดันให้นโยบายภาษีให้ทันในช่วงสิ้นปีนี้

นายชัค ชูมเมอร์ หัวหน้าสมาชิกวุฒิสภาเดโมแครต กล่าวเตือนว่า หากรัฐบาลขาดรายได้จะส่งผลให้การดำเนินนโยบายที่สำคัญอื่นๆ อย่างเช่นค่าใช้จ่ายทางการทหาร อาจได้รับผลกระทบ

· นายโรเบิร์ต เคพแลนด์ ประธานเฟดสาขาดัลลัส กล่าวย้ำถึงแนวความคิดที่ค่อนข้างเปิดกว้างต่อความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมเดือนหน้า เพราะเฟดอาจจะทำให้สภาวะเศรษฐิจสหรัฐฯประสบภาวะ Overheat ได้ หากไม่ดำเนินการปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อตอบรับกับอัตราว่างงานที่ปรับตัวลดลง โดยอัตราว่างงานที่ระดับ 4.1% ในปัจจุบันเป็นการปรับตัวลดลงและมีแนวโน้มจะลดลงต่อ สะท้อนถึงการบรรลุเป้าหมายการจ้างงานเต็มรูปแบบของเฟดนั่นเอง

· นางลอเรตต้า เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาเคฟแลนด์ กล่าวว่า เฟดไม่ควรเริ่มเปลี่ยนแปลงคาดการณ์ทางเศรษฐกิจใดๆ จนกว่าจะถึงขั้นตอนสุดท้ายในการอนุมัติให้ร่างกฎหมายภาษีออกมาเป็นตัวบทกฎหมายจากทางสภาคองเกรส

· นายจอห์น วิลเลียม ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก กล่าวว่า ธนาคารกลางทั่วโลกควรใช้ช่วงเวลานี้ในการกลับมาพิจารณานโยบายการเงินให้เหมาะสมสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่ทรงตัว พร้อมกล่าวเตือนว่าการต่อสู้กับภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจในครั้งต่อไปเราอาจต้องเผชิญและอาจจำเป็นต้องปรับลดดอกเบี้ยมากขึ้นกว่าเดิมได้

· รายงานจากรอยเตอร์ส ระบุว่า นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดคนปัจจุบันมีกำหนดการจะกล่าวถ้อยแถลงแนวโน้มเศรษฐกิจก่อนขึ้นรายงานต่อคณะกรรมการร่วมด้านเศรษฐกิจของสภาคองเกรสในวันที่ 29 พ.ย.นี้

· สมาชิกบอร์ดบริหารของ ECB เผย พันธบัตรบริษัทเอกชนอาจเป็นสินทรัพย์ส่วนมากที่ ECB จะถือครอง หลังการปรับลดการเข้าซื้อสินทรัพย์ลงสู่ระดับ 3 หมื่นล้านต่อเดือน ซึ่งอาจจะเริ่มต้นในเดือนมกราคม ขึ้นอยู่กับสภาวะของตลาด

· ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงจากความกังวลที่เพิ่มึ้นเกี่ยวกับการขยายตัวของสต็อกน้ำมันดิบและปริมาณการผลิตน้ำมันในสหรัฐฯ แม้ว่าจะมีกระแสคาดการณ์ที่ว่าบรรดาผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ทั่วโลกมีแนวโน้มจะทำการขยายข้อตกลงการปรับลดกำลังการผลิตในการประชุมช่วงปลายเดือนนี้ก็ตาม (30 พ.ย.)

น้ำมันดิบ Brent ปิดลดลง 51 เซนต์ หรือคิดเป็น -0.8% ที่ระดับ 61.36 เหรียญ/บาร์เรล โดยเป็นการปรับตัวลดลงติดต่อกัน 5 วันทำการ ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปิดลดลงติดต่อกัน 4 วันทำการ โดยลดลง 19 เซนต์ หรือคิดเป็น -0.3% ที่ระดับ 55.14 เหรียญ/บาร์เรล 


บริษัท เอ็มทีเอส แคปปิตอล จำกัด
10,12,14 ชั้น 3 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200
Copyright © 2014 MTS Capital Co., Ltd. All right reserved