· ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น 0.2% แตะระดับสูงสุดเมื่อต้นเดือนก.ย. ที่ผ่านมาที่ระดับ 1,342.06 เหรียญ ก่อนจะลงมาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,340.72 เหรียญ โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ที่ปรับลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี

สำหรับภาพรวมรายสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น 1.4% ติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 5

· ด้านราคาสัญญาทองคำตลาด COMEX ปรับสูงขึ้น 0.4% บริเวณ 1,340.80 เหรียญ

· นักวิเคราะห์จาก OANDA กล่าวว่า นอกจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ที่เป็นปัจจัยหลักที่หนุนราคาทองคำ นักลงทุนยังคงจับตามองปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองในพื้นที่ตะวันออกกลางอีกด้วย โดยเฉพาะความขัดแย้งของอิหร่านและสหรัฐฯ หลังประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรอิหร่าน ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่ช่วยราคาให้สูงขึ้นๆได้อย่างมากอีกตัวหนึ่ง

· ประธานาธิบดีอิหร่านกล่าวว่า สหรัฐฯประสบความล้มเหลวในการรักษาข้อตกลงนิวเคลียร์ดังกล่าวเอาไว้ระหว่างอิหร่านและบรรดาประเทศมหาอำนาจในโลก ขณะที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า ข้อตกลงดังกล่าวมี”จุดบกพร่องที่เลวร้าย”อยู่ พร้อมข่มขู่จะถอนตัวออกจากข้อตกลงหากไม่ได้รับการแก้ไข

· ดัชนีดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลง 0.2% บริเวณ 90.773 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของเดือน ม.ค. ปี 2015

· นายอีริค โรเซ็นเกร็น ประธานเฟดสาขาบอสตัน กล่าวว่า การปรับตัวลดลงของอัตราการว่างงานสหรัฐฯอาจทำให้เงินเฟ้อปรับตัวขึ้น และจะส่งผลให้เงินเฟ้อเป็นไปตามกรอบเป้าหมายนโยบายปัจจุบันของเฟด

· บรรดานักบริหารเงินและกองทุนเฮดฟันด์ในตลาด COMEX เพิ่มสถานะการถือครองสถานะ Long ในทองคำเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยหนุนทิศทางขาขึ้นของทองคำ

· นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจาก Reuters คาดว่า ราคาทองคำจะสามารถทะลุผ่านแนวต้าน 1,341 เหรียญ และจะมีเป้าหมายต่อไปอยู่ที่ระดับ 1,357.54 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับสูงสุเของวันที่ 8 ก.ย. 2017

· ราคาพลาเดียมปรับลดลง 0.4% บริเวณ 1,119.59 เหรียญ หลังจากขึ้นไปทพระดับสูงสุดที่ 1,126.30 เหรียญเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

· ราคาซิลเวอร์ปรับสูงขึ้น 0.1% บริเวณ 17.26 เหรียญ

· ราคาแพลตินั่มทรงตัวที่บริเวณ 993.15 เหรียญ หลังจากขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 998.50 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของวันที่ 11 ก.ย. 2017 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา