· ดัชนีดอลลาร์ทรงตัวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี บริเวณ 90.807 จุด เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักส่วนใหญ่ หลังจากที่ปรับอ่อนค่าทำจุดต่ำสุดบริเวณ 90.773 จุด โดยได้รับแรงกดดันจากค่าเงินยูโรที่แข็งค่าขึ้น หลังอีซีบีส่งสัญญาณจะปรับลดการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน

โดยค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้นอีก 0.1% บริเวณ 1.2206 ยูโร/ดอลลาร์ หลังจากทำระดับสูงสุดที่บริเวณ 1.2218 ยูโร/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของเดือน ธ.ค. เดือน 2014

ขณะที่ค่าเงินดอลลารืเมื่อเทียบกับเงินเยน ปรับอ่อนค่าลง 0.3% บริเวณ 110.73 เยน/ดอลลาร์ หลังจากลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 110.63 เยน/ดอลลาร์

· บรรดารัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศจาก 20 ประเทศ จะพบกันภายในวันอังคารนี้ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับการร่วมมือกันเพื่อหยุดการพัฒนาอาวุธของเกาหลีเหนือผ่านทางการฑูตและการคว่ำบาตรทางการเงิน อย่างไรก็ตาม ตัวแทนจากประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีอิทธิพลอย่างมากกับเกาหลีเหนือ จะไม่เข้าร่วมการเจรจาครั้งนี้

· รายงานจาก Reuters ระบุว่า เกาหลีเหนือได้เรียกร้องให้จัดการประชุมร่วมกับเกาหลีใต้ขึ้นอีกครั้งในวันพุธที่จะถึงนี้ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับเรื่องแรงงานต่อ หลังจากที่การเจรจาวันนี้ยังไม่สามารถหาสรุปร่วมกันได้

· นางนิโคลา สเตอร์เจียน นายกรัฐมนตรีสกอตแลนด์ คาดว่ามีโอกาสสูงที่อังกฤษจะยังคงอยู่ใน Single market ของสหภาพยุโรปหลังจากที่ถอนตัวออกไปแล้ว เนื่องจากยังไม่เคยมีประเทศไหนแสดงให้เห็นถึงผลเสียจากการตัดขาดทางการค้ากับสหภาพยุโรป

· น้ำมันดิบ Brent ปิดปรับตัวขึ้นแตะ 70 เหรียญ/บาร์เรล โดยได้รับอานิสงส์หลักจากข้อตกลงการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกและรัสเซีย จึงชดเชยกับการเพิ่มขึ้นของจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯและแคนาดาที่ส่งผลให้ผลผลิตน้ำมันสหรัฐฯทางอเมริกาเหนือสุงขึ้น

วันนี้น้ำมันดิบ Brent ทรงตัวเหนือระดับ 70 เหรียญ/บาร์เรล หรือปรับตัวขึ้นได้ประมาณ 13 เซนต์ จากราคาปิดเมื่อคืน ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้น 23 เซนต์ ที่ระดับ 64.53 เหรียญ/บาร์เรล

อย่างไรก็ดี ทั้งน้ำมันดิบ Brent และ WTI ต่างก็ปรับตัวขึ้นได้เหนือระดับสูงสุดที่ไม่เคยเห็นมาก่อนนับตั้งแต่ธ.ค. ปี 2014 โดยน้ำมันดิบ Brent ทำ High 70.05 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ทำ High 64.77 เหรียญ/บาร์เรล

นักวิเคราะห์จาก ANZ Bank กล่าวว่า ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึันเมื่อไม่นานมานี้เป็นข้อมูลที่บ่งชี้ว่าตลาดน้ำมันดิบกำลังมีความตึงตัว