สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 19 มีนาคม 2561

ข่าว

สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 19 มีนาคม 2561

19 มีนาคม 2561

• ดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้น 0.1% เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลัก ที่บริเวณ 90.297 จุด ท่ามกลางเหล่านักลงทุนที่เฝ้ารอการประชุมเฟด ภายในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณเกี่ยวกับจังหวะการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ท่ามกลางภาวะตลาดโลกที่ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับโอกาสเกิด Trade war

ขณะที่ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง 0.2% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ บริเวณ 1.2266 ดอลลาร์/ยูโร

• บรรดานักลงทุนในตลาดญี่ปุ่นกำลังมีความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดทางการเมือง จากประเด็นต้องสงสัยการทุจริตของนายกรัฐมนตรี ที่อาจทำให้เขาอาจต้องรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งจะทำให้การดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายของเขา อาจต้องหยุดชะงักลง โดยค่าเงินเยนปรับแข็งค่า 0.2% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ ที่บริเวณ 105.74 เยน/ดอลลาร์

• บรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากบีโอเจ ยังคงแสดงความเชื่อมั่นว่า บีโอเคควรยึดมั่นในการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไป เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังคงไม่เติบโตได้ตามเป้าหมายที่2% ขณะที่แสดงความกังวลว่า การแข็งค่าของเงินเยน อาจกดดันการขยายตัวของปริมาณการลงทุนภายในประเทศ รวมถึงการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่อาจชะลอตัวลงตาม จึงอาจส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อขยายตัวได้ช้าลงกว่าที่คาดการณ์ไว้

• โพลสำรวจของญี่ปุ่นเผย คะแนนความนิยมของประชาชนที่มีต่อนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ปรับลดลงต่ำกว่าระดับ 30% ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่ที่เขาเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือน ธ.ค.ปี 2012 ท่ามกลางผลกระทบจากประเด็นต้องสงสัยว่านายเอเบะมีการใช้อำนาจรัฐในการเอื้อผลประโยชน์ให้กับตนเองและภรรยา

• ทนายความประจำทำเนียบขาว เผย นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไม่ได้มีการพิจารณาว่าจะสั่งปลดนายโรเบิร์ต มูลเลอร์ หัวหน้าคณะสืบสวนพิเศษที่กำลังสืบสวนความเกี่ยวข้องกันระหว่างรัสเซียและการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2016 แต่อย่างใด

• รัฐบาลจีน ประกาศจัดตั้งทีมบริหารเศรษฐกิจขึ้นใหม่ ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐสภา โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อแก้ไขปัญหาความเสี่ยงในตลาดการเงิน โดยเฉพาะจากระดับหนี้สินภาคครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น จึงอาจกดดันการเติบโตของเศรษฐกิจจีนได้

• ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงท่ามกลางแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯที่เพิ่มสูงขึ้น และอาจเพิ่มกำลังผลิตน้ำมันดิบให้สูงขึ้น จึงจุดประกายความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด

ทั้งนี้ น้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงไป 20 เซนต์ คิดเป็น -0.3% ที่ระดับ 62.14 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่น้ำมันดิบ Brent ลดลง 22 เซนต์ คิดเป็น -0.3% ที่ระดับ 65.99 เหรียญ/บาร์เรล

บริษัท เอ็มทีเอส แคปปิตอล จำกัด
10,12,14 ชั้น 3 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200
Copyright © 2014 MTS Capital Co., Ltd. All right reserved