ราคาน้ำมัน WTI ปรับตัวสูงขึ้นเหนือระดับ 66 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่น่าประหลาดใจเท่าไหร่ สำหรับนักวิเคราะห์ทางเทคนิคส่วนมาก
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาจากการเคลื่อนไหวของราคาทางเทคนิค จะพบว่าราคามีเป้าหมายต่อไปอยู่ที่ระดับ 76 เหรียญ/บาร์เรล หรืออาจสูงกว่านั้น โดยจะมีปัจจัย 3 ประการ ดังนี้:
1. จากกราฟรายสัปดาห์จะเห็นได้ว่า ราคาสามารถเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways โดยมีแนวรับที่ 43 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งถือว่าเป็นแนวรับที่แข็งแกร่ง และแนวต้านที่ 54 เหรียญ/บาร์เรล โดยราคาสามารถยืนเหนือแนวรับดังกล่าวมาได้ตลอด นับตั้งแต่เดือน เม.ย. ปี 2016
การที่ราคาสามารถปรับขึ้นแนวต้าน 54 เหรียญ/บาร์เรลมาได้ ส่งผลให้เกิดแรงหนุนขึ้นมาต่อจนถึงระดับ 65 เหรียญ และจะมีเป้าหมายต่อไปที่ระดับ 76 เหรียญ/บาร์เรล
2. การเคลื่อนไหวของเส้น Guppy Multiple Moving Average (GMMA) ได้แสดงให้เห็นถึงแรงหนุนในทิศทางขาขึ้นที่มีอย่างมั่นคงและต่อเนื่อง รวมถึงระยะห่างระหว่างแรงเข้าซื้อในระยะสั้นและระยะยาวก็ถือว่าทรงตัว จึงเป็นสัญยาณเชิงบวกต่อราคาน้ำมัน
นอกจากนี้ การ Breakout เส้นแนวต้านของราคาที่เกิดขึ้น ยังเป็นการเคลื่อนไหวที่ทรงตัว ไม่ใช่การเคลื่อนไหวแบบฉับพลันหรือน่าตกใจแต่อย่างใด
3. เส้นเทรนทิศทางขาขึ้นที่มีฐานตั้งอยู่ที่ระดับ 43 เหรียญ/บาร์เรล เมื่อเดือน มิ.ย. ปี 2017 ซึ่งระดับดังกล่าวได้กลายมาเป็นเส้นแนวรับสำคัญของราคาน้ำมันตลอดจนปัจจุบัน
เมื่อพิจารณาจากเส้นเทรน จะพบว่าเป้าหมายแรกของราคาจะอยู่ที่ระดับ 65 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่เป้าหมายถัดไปจะอยู่ที่ 76 เหรียญ/บาร์เรล หรือสูงกว่า ส่วนสาเหตุที่อาจราคาอาจปรับขึ้นไปเหนือกว่าระดับ 76 เหรียญ/บาร์เรล เป็นเพราะว่า ระดับดังกล่าวไม่เคยทำหน้าที่เป็นแนวรับหรือแนวต้านที่สำคัญมาก่อน
การเคลื่อนไหวของกราฟราคาน้ำมันระยะยาว แสดงให้เห็นถึงความผันผวนที่ต่ำ ประกอบกับการเคลื่อนไหวรายวันที่ค่อนข้างทรงตัวในกรอบ รวมถึงราคามักจะเคลื่อนเข้าหาเส้นแนวต้านในรายวันเป็นส่วนใหญ่ จากปัจจัยทั้งหมดที่ยกมานี้ ล้วนแล้วแต่เป็นสัญญาณที่บ่งชี้ถึงทิศทางขาขึ้นที่แข็งแกร่ง