สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 24 เมษายน 2561

ข่าว

สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 24 เมษายน 2561

24 เมษายน 2561


·       ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นทำระดับสูงสุดรอบ 3 เดือนเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ ตามการฟื้นตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี ที่เพิ่มขึ้นแตะระดับสำคัญทางจิตวิทยาบริเวณ 3%

 

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี ปรับขึ้นแตะระดับสูงสุดรอบ 4 ปีบริเวณ 2.998% และวันนี้ทรงตัวบริเวณ 2.964% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 ปี ปรับขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ก.ย. ปี 2008 บริเวณ 2.483%

ดัชนีดอลลาณ์ปรับขึ้นทำระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 12 ม.ค. บริเวณ 91.076 จุด ก่อนจะทรงตัวแถวระดับ 90.929 จุด ทางด้านค่าเงินเยนปรับอ่อนค่าขึ้นทำระดับสูงสุดรอบ 2 เดือนบริเวณ 108.87 เยน/ดอลลาร์ และล่าสุดทรงตัวแถว 108.82 เยน/ดอลลลาร์

ค่าเงินยูโรทรงตัวบริเวณ 1.2209 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากที่เมื่อเช้าอ่อนค่าลงไปทำระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 1 มี.ค. บริเวณ 1.2185 ดอลลาร์/ยูโร

·       ค่าเงินปอนด์ในช่วงต้นสัปดาห์อ่อนค่าลง หลังจากที่ทราบถ้อยแถลงนายมาร์ค คาร์นีย์ ผู้ว่าการบีโออีในสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่มีความกังวลต่อข้อมูลเศรษฐกิจอังกฤษ และทำให้ตลาดกลับมาลดโอกาสที่บีโออีจะทำการตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยจำนวน 0.25%ในเดือนพ.ค.นี้ โดยผลสำรวจล่าสุดมองว่าบีโออีมีโอกาสน้อยกว่า 50% จากเดิมที่มีโอกาสประมาณ 85%

·       CNBC ชี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของสหรัฐฯ ทรงตัวเหนือระดับ 3% ในวันนี้ ซึ่งพันธบัตรมักถือเป็นสินทรัพย์การลงทุนด้าน Safe-Haven จากตลาดหุ้น แต่การที่ธนาคารกลางต่างๆยังคงดอกเบี้ยระดับต่ำในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ก็ได้ส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอยู่ในระดับตำด้วยเช่นกัน ขณะที่ตอนนี้เฟดและบรรดาธนาคารกลางต่างๆเริ่ที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย ก็ได้ส่งผลให้เราเห็นถึงการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเช่นเดียวกัน

·       จากรายงานคาดการณ์เศรษฐกิจของเฟด จะเห็นได้ว่าเฟดได้ตั้งเป้าหมายการปรับอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ไว้ทั้งหมด 3 ครั้ง อย่างไรก็ตาม เครื่องมือ FedWatch ของ CME Group แสดงให้เห็นว่า ตลาดได้คาดการณ์การปรับดอกเบี้ยครั้งที่ 4 ไว้ในเดือน ธ.ค. โดยมีโอกาสที่ 48%

นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังได้แนะนำให้นักลงทุนจับตาดูการเคลื่อนไหวของอัตราผลคอบแทนพันธบัตรรับบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี ที่ปรับสูงขึ้นใกล้ระดับ 3% รวมถึงการขยายตัวของอัตราเงินเฟ้อที่กลับมาเป็นประเด็นหลักของตลาดอีกครั้ง จากการปรับตัวสูงขึ้นของราคาสินค้าโภคภันฑ์ ทั้งนี้ เครื่องมือ FedWatch ได้คาดการณ์ว่า เฟดจะทำการปรบขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย. อีก 0.25% โดยมีโอกาสถึง 93%

·       การประชุมอีซีบีที่จะเกิดขึ้นในวันพฤหัสบดีอาจจะไม่ได้ส่งสัญญาณทางเศรษฐกิจใหม่ใดๆใน Economic Projections แต่มีโอกาสที่จะเห็น นายมาริโอ ดรากี้ ประธานอีซีบีอาจส่งสัญญาณชี้นำในเชิงผ่อนคลายทางการเงินมากขึ้น อันเป็นผลมาจากข้อมูลเศรษฐิกจที่น่าผิดหวัง รวมถึงเงินเฟ้อที่ส่งผลโดยตรงต่อค่าเงินยูโร และการแข็งค่าของค่างินยูโรไปแล้วกว่า 9% ในปีนี้ ก็ยังเป็นปัจจัยที่กดดันการค้าอยู่

ขณะเดียวกันรายงานจาก DailyFX แสดงให้เห็นว่า มีโอกาส 25% ที่จะเห็นอีซีบีตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยในปี 2018 ขณะที่ภาพรวมตลาดไม่คาดว่าอีซีบีจะดำเนินการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินใดๆอย่างน้อยจนกว่าจะถึงช่วงไตรมาสที่ 3/2019

·       ประธานาธิบดีอิหร่าน กล่าวเตือนนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขอให้สหรัฐนไม่ถอนตัวออกจากข้อตกลงในสัญญานิวเคลียร์ที่ลงนามร่วมกันในปี 2015 ไม่เช่นนั้นจะเจอกับผลลัพธ์ที่เลวร้าย

·       รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศแห่งรัสเซีย กล่าวว่า สหรัฐฯไม่มีความตั้งใจที่จะถอนกำลังออกจากพื้นที่ของซีเรียอย่างเด็ดขาด ถึงแม้รายงานจากสหรัฐฯจะระบุเช่นนั้นก็ตาม

·       รายงานจากสำนักข่าว Xinhua ระบุว่า กองทัพเรือจีน ได้ทำการซ้อมรบด้วยกระสุนจริงในพื้นที่ทะเลจีนตะวันออก ซึ่งเป็นการซ้อมรบครั้งล่าสุดของจีนหลังจากที่ดำเนินการมาติดต่อกันถึง 10 วัน อย่างไรก็ตาม ไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนว่าการซ้อมรบเกิดขึ้นในบริเวณใดของน่านน้ำ

·       การประชุมบีโอเจในวันศุกร์ น่าจะยังเดินหน้าเดินหน้าส่งสัญญาณเชิงคุมเข้มทางการเงิน เหมือนที่ได้ให้สัญญาณไว้ตั้งแต่ช่วงมี.ค. แต่ไฮไลท์สำคัญคือบีโอเจน่าจะยังคงนโยบายผ่อนคลายทางการเงินไปก่อน หลังจากที่เงินเฟ้อญี่ปุ่นออกมาแตะระดับ 1.1% จากระดับ 1.5% ในเดือนมี.ค. แต่ก็คาดว่าบีโอเจจะพยายามเริ่มถอนนโยบายผ่อนคลายการเงินฉบับพิเศษที่จะเริ่มในปี 2019 (เม.ย. 2019) จากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งส่วนใหญ่เมื่อไม่นานมานี้

·       รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจแห่งญี่ปุ่น เปิดเผยว่า นโยบายการค้าระหว่างสหรัฐฯ-ญี่ปุ่นฉับบใหม่ ที่ดำเนินการร่วมกับตัวแทนการค้าของสหรัฐฯ จะยังไม่มีผลบังคับใช้จนกว่าจะถึงช่วงกลางเดือน มิ.ย. เป็นอย่างเร็วที่สุด

ทั้งนี้ ในการประชุมระหว่างผู้นำประเทศญี่ปุ่นและสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการตกลงกันที่จะยกระดับการค้าของทั้ง ประเทศขึ้น

·       ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง 6 วันทำการ แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่พ.ย. ปี 2014 โดยยืนเหนือ 75 เหรียญ/บาร์เรล จากกระแสคาดการณ์ที่ว่าอุปทานน้ำมันดิบจะตึงตัว ท่ามกลางอุปสงค์ที่แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้นมาแถวระดับ 75.27 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 27 พ.ย. 2014 ก่อนจะทรงตัวแถว 75.07 เหรียญ/บาร์เรล โดยภาพรวมปรับขึ้นประมาณ 36 เซนต์ คิดเป็น 0.5% เมื่อเทียบกับระดับปิด

น้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้นมาทรงตัวบริเวณ 69.17 เหรียญ/บาร์เรล หรือเพิ่มขึ้นมา 53 เซนต์ คิดเป็น +0.8% เมื่อเทียบกับราคาปิดวานนี้



บริษัท เอ็มทีเอส แคปปิตอล จำกัด
10,12,14 ชั้น 3 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200
Copyright © 2014 MTS Capital Co., Ltd. All right reserved