สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 12 มิถุนายน 2561

ข่าว

สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 12 มิถุนายน 2561

12 มิถุนายน 2561
 

·         ค่าเงินดอลลาร์และค่าเงินยูโรยังคงเคลื่อนไหวในกรอบก่อนการประชุมเฟดและอีซีบี รวมทั้งการประชุมสุดยอดผู้นำระหว่างสหรัฐฯและเกาหลีเหนือที่จะเกิดขึ้นวันนี้


ค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดรอบ 2 เดือนบริเวณ 1.1820 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากที่อิตาลีส่งสัญญาณว่าจะไม่มีการออกจากอียู จึงช่วยบรรเทาความกังวลของกลุ่มนักลงทุน แต่ค่าเงินยูโรก็อ่อนตัวกลับลงมาแถว 1.1785 ดอลลาร์/ยูโรก่อนทราบผลประชุมอีซีบีในวันพฤหัสนี้


ดัชนีดอลลาร์ทรงตัวบริเวณ 93.58 จุด โดยยังคงอยู่เหนือระดับต่ำสุดรอบ 3 สัปดาห์ที่ทำไว้เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว


·         กลุ่มนักลงทุนต่างมองว่าอีซีบีน่าจะส่งสัญญาณอะไรเพิ่มเติมในการประชุมสัปดาห์นี้ โดยน่าจะเป็นการพูดถึงการปรับลดการเข้าซื้อพันธบัตรหรือนโยบาย QE ที่ระดับ 2.55 ล้านล้านยูโรในช่วงก.ย.นี้ หลังจากที่เจ้าหน้าที่อีซีบีบางส่วนดูมีท่าทีคุมเข้มทางการเงินมากขึ้น


แต่ก่อนจะเกิดการประชุมอีซีบี เฟดน่าจะเป็นปัจจัยหลักต่อตลาด โดยคาดว่าในการประชุมระหว่าง 12-13 มิ.ย. เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ของปีนี้ แต่ตลาดให้ความสำคัญไปยังรายงานFed’s Projection ที่จะบ่งชี้ถึงทิศทางการขึ้นดอกเบี้ยในอนาคต


·         รายงานจากเฟดสาขานิวยอร์ก ระบุว่า ข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯถูกคาดว่าจะอยู่ในระดับทรงตัวในเดือนพ.ค. หลังจากที่ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาปรับตัวขึ้น ขณะเดียวกันชาวอเมริกาก็มีมุมมองเชิงลบมากขึ้นต่อรายได้และค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น


ผลสำรวจกลุ่มผู้บริโภค ชี้ว่า ข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯจะยังคงอยู่ระดับกลางบริเวณ 2.98ในช่วง 1 ปี และอีก 3 ปีคาดว่าจะขยายตัวได้เพียง 2.96% ในเดือนพ.ค. โดยปรับลงเล็กน้อยจากเดือนเม.ย. ที่ 2.97%


อย่างไรก็ดี ถึงแม้การขยายตัวทางเศรษฐกิจจะอยู่ในเกณฑ์การปรับตัวขึ้น แต่รายได้ภาคครัวเรือนดูจะอ่อนตัวลงมาที่ระดับ 2.62% ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ก.ย. ปีที่แล้ว ขณะที่คาดการณ์ค่ากลางของการขยายตัวค่าใช้จ่ายในประเทศก็คาดว่าจะลดลงเมื่อเทียบกับเดือนเม.ย.


·         นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ที่ได้เดินทางถึงประเทศสิงคโปร์เมื่อวานนี้ ได้มีการเที่ยวชมเมืองสิงคโปร์ และแสดงความคิดเห็นว่าประเทศสิงคโปร์เป็นประเทศที่ สะอาดและสวยงาม” รวมถึงแสดงความหวังว่าเขาจะสามารถเรียนรู้จากระบบเศรษฐกิจของสิงคโปร์เพื่อนำไปใช้พัฒนาเศรษฐกิจของประเทศตนเองได้

รายงานล่าสุดยืนยันว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ได้เดินทางถึงสถานที่จัดการประชุมสุดยอดในประเทศสิงคโปร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยการประชุมได้เริ่มต้นอย่างเป็นทางการเวลาประมาณ 08.00น. ตามเวลาประเทศไทย


 ทั้งนี้ ถึงแม้นายทรัมป์จะได้แสดงความมุมมองเชิงบวกต่อการประชุมเพื่อโน้มน้าวให้เกาหลีเหนือปลดอาวุธนิวเคลียร์เมื่อคืนที่ผ่านมา แต่ นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศแห่งสหรัฐฯ ก็ได้ออกมาเตือนว่ายังคงไม่มีความชัดเจนว่านายคิมจะยินยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดีหรือไม่


นอกจากนี้ ก่อนหน้าการประชุมจะเริ่มต้น นายทรัมป์ได้ทวีตข้อความว่า การเตรียมการจัดการประชุมร่วมกับนายคิมสามารถดำเนินไปได้ด้วยดีและรวมเร็ว


อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนจะมีรายงานว่านายคิมจะเดินทางออกจากสถานที่ประชุมในช่วงบ่ายวันนี้

·         รายงานจาก CNBC เผยว่า บรรดานักกลยุทธ์ต่างมองว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ อาจมีความตั้งใจจริงที่จะหารือเรื่องนิวเคลียร์ของตนกับทางประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงแนวทางการปกครองหรือยุติโครงการนิวเคลียร์

·         หลังจากที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวโจมตี นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตีแคนาดา ก็ดูเหมือนจะส่งผลให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศย่ำแย่ลงในรอบกว่าทศวรรษ และมีทางเลือกที่น้อยลงสำหรับการหลีกเลี่ยงภาวะ Trade War ของทั้งสองประเทศ

·         ขณะที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ทวีตข้อความโจมตีแคนาดา อียูในประเด็นการค้า และองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) เกี่ยวกับประเด็นค่าใช้จ่าย ในระหว่างการเดินทางไปสิงคโปร์หลังเสร็จสิ้นการประชุม G7


โดยในข้อความบนทวิตเตอร์ระบุว่า "การค้าที่ยุติธรรมเป็นเรื่องไร้สาระหากทั้งสองฝ่ายไม่ได้รับประโยชน์ แคนาดาทำเงินจากการค้าร่วมกับสหรัฐได้เกือบ 1 แสนล้านดอลลาร์ เก็บภาษีสินค้าผลิตภัณฑ์นมสหรัฐกว่า 270% แต่กลับรับไม่ได้เมื่อสหรัฐพูดความจริง" และเขาไม่ได้ต้องการให้เพื่อนหรือศัตรูเอาเปรียบทางการค้า จึงได้ยึดนโยบาย “American First”


·         นางคริสติน ลาร์การ์ด ผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟ กล่าวว่า ทิศทางเศรษฐกิจโลกดูจะมืดมนมากขึ้นนับตั้งแต่การประชุม G7 วาระล่าสุดที่ผ่านมา ขณะที่เธอมีความคิดเห็นเช่นเดียวกับผู้นำเยอรมนีที่ว่า ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจกำลังดิ่งลงจากมาตรการข้อขัดแย้งทางการค้า


·         นางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวว่า รัสเซียจะไม่สามารถกลับเข้าร่วมการประชุม G7 ได้จนกว่าจะหยุดแทรกแซงเรื่องภายในของประเทศอื่นๆ ซึ่งถือเป็นการปฏิเสธข้อเรียกร้องของนายทรัมป์ที่ต้องการให้รัสเซียได้กลับเข้าร่วมกลุ่ม G7 อีกครั้ง

·         นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ทวีตข้อความว่า นายแลรี่ คุดโลว์ ที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจคนสำคัญของเขา ได้ประสบภาวะหัวใจวายและกำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลในเมืองวอชิงตันของสหรัฐฯ

ทั้งนี้ นายคุดโลว์ วัย 70 ปี เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดันนโยบายทางเศรษฐกิจของนายทรัมป์ หลังจากที่นายทัรมป์ได้สั่งปลดนายแกรี่ โคห์น ที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจคนก่อนออกไปเมื่อช่วงเดือน มี.ค.

·         ราคาน้ำมันดิบเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย หลังจากที่รัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันดิบของอิรักไม่มั่นใจว่ากลุ่มโอเปกจะตัดสินใจปรับเพิ่มกำลังการผลิตในการประชุมที่จะเกิดขึ้นในเดือนนี้หรือไม่

น้ำมันดิบ Brent ปิดทรงตัวบริเวณ 76.46 เหรียญ/บาร์เรล ขณะทีน้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้น 36 เซนต์ ที่ระดับ 66.07 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่ 1 มิ.ย. ซึ่งภาพรวมดูเหมือนนักลงทุนจะทำการเทขายทำกำไรหลังจากที่ราคาน้ำมันดิบทะยานขึ้นในช่วงก่อนหน้า

บริษัท เอ็มทีเอส แคปปิตอล จำกัด
10,12,14 ชั้น 3 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200
Copyright © 2014 MTS Capital Co., Ltd. All right reserved