·         ราคาทองคำปรับตัวลง โดยมีแรงกดดันจากการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่รอผลประชุมเฟด โดยราคาทองคำปรับตัวลงมาทำระดับต่ำสุดแถว 1,292 เหรียญโดยประมาณ และค่อยๆดีดกลับมาแถว 1,299 เหรียญในเช้านี้ โดยที่ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆระหว่าง 1,290 -1,305 เหรียญ ซึ่งเป็นกรอบการเคลื่อนตัวมาตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพ.ค.

ทางด้านสัญญาทองคำส่งมอบเดือนส.ค. ปรับตัวลง 0.1% ที่ระดับ 1,298.1 เหรียญ

·         นักลงทุนยังคงมีท่าทีระมัดระวังต่อการประชุมอีซีบีและบีโอเจที่จะมาถึง ซึ่งอีซีบีถูกคาดว่าจะมีการส่งสัญญาณปรับลดวงเงินการเข้าซื้อ QE และนั่นอาจทำให้ค่าเงินยูโรแข็งค่า และเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำได้

·         กองทุน SPDR ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 828.76 ตัน ติดต่อกัน 4 วันทำการ

·         รอยเตอร์ส รายงานว่า กองทุน ETFs มีการลดปริมาณการถือครองทองคำลง 1.4 ล้านออนซ์ หรือคิดเป็น 2.4% นับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพ.ค. ขณะที่ราคาในตลาด Comex ปรับตัวขึ้นหลังจากที่ในเดือนเม.ย. ราคาลงไปทำระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ม.ค. ปี 2016

·         นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจากรอยเตอร์ส  กล่าวว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มจะ Break ตัวออกจากกรอบลงมาที่ระดับ 1,263 – 1,278 เหรียญได้

·         ขณะที่นักวิเคราะห์จาก ScotiaMocatta กล่าวว่า ระดับเส้น Fibonacci ทางเทคนิคชี้แนวรับจะอยู่ที่ 1,286 เหรียญ ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,301.4 เหรียญ โดยทองคำมีแนวโน้มจะปรับตัวลงมา เว้นแต่จะสามารถยืนเหนือระดับเส้นค่าเฉลี่ย MA ราย 200 วันที่ 1,307 เหรียญได้

·         นักวิเคราะห์จาก FX Street มองว่า หากราคาทองคำปิดเหนือแนวต้าน 1,303 เหรียญ และ 1,307 เหรียญ ก็มีโอกาสเห็นทองคำขึ้นไปแถวแนวต้านถัดไปที่ 1,318 เหรียญได้ ขณะที่แนวรับจะอยู่ที่ระดับ 1,292 เหรียญ หากหลุดลงมาจะมีแนวรับถัดไปที่ 1,288 และ 1,282 เหรียญตามลำดับ

·         ราคาซิลเวอร์ปิด +0.1% ที่ระดับ 16.88 เหรียญ หลังจากที่ขึ้นไปทำระดับสูงสุดรอบ 7 สัปดาห์บริเวณ 16.95 เหรียญ ขณะที่ราคาแพลทินัมปิดทรงตัวที่ 894.2 เหรียญ และราคาพลาเดียมปิด -0.7% ที่ระดับ 1,011 เหรียญ