สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 24 สิงหาคม 2559

ข่าว

สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 24 สิงหาคม 2559

24 สิงหาคม 2559

คาดประธานเฟดจะส่งสัญญาณว่า มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ก.ย.

สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า ในการกล่าวสุนทรพจน์วันศุกร์นี้ นางเจเนต เยลเลน ประธานเฟดน่าจะรักษาทางเลือกในการดำเนินนโยบายของเธอเอาไว้ โดยการระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐนั้นน่าจะแข็งแกร่งพอที่จะสามารถรองรับการขึ้นดอกเบี้ยได้ซักครั้งหนึ่ง ดังนั้นการขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. จึงความเป็นไปได้ อย่างไรก็ดีประธานเฟดจะไม่ให้คำมั่นสัญญาว่าจะขึ้นดอกเบี้ยใดๆ

หัวข้อของการกล่าวสุนทรพจน์ของเธอคือ “ชุดเครื่องมือของนโยบายทางการเงิน” (monetary policy toolkit) ขณะที่หัวข้อของการประชุมที่เมือง Jackson Holeคือ “การออกแบบกรอบความคิดของนโยบายการเงินที่ยืดหยุ่นสำหรับอนาคต” (Designing Resilient Monetary Policy Frameworks for the Future)

นักเศรษฐศาสตร์จาก Columbia University คาดการณ์ว่า นางเยลเลน น่าจะต้องการรักษาทางเลือกในการขึ้นดอกเบี้ยของตนเองในเดือน ก.ย. และน่าจะไม่ให้สัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยใดๆที่ชัดเจนว่าเธอพร้อมจะขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่

นาย Jonathan Wright ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์แห่งมหาวิทยา Johns Hopkins และอดีตนักเศรษฐศาสตร์ของเฟด ระบุว่า นางเจเนต เยลเลน ต้องการจะรักษาทางเลือกในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. เอาไว้ ดังนั้นเธอน่าจะส่งสัญญาณว่าเธอต้องการขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. อย่างไรก็ดีไม่คิดว่าเธอจะอยากขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ก.ย.



ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นติดต่อกัน 4 วันทำการ

ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยในวันนี้ โดยนักลงทุนกำลังเฝ้ารอสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยจากถ้อยแถลงของประธานเฟดในคืนวันศุกร์นี้ โดยค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินของประเทศพัฒนาแล้วทุกสกุล

ดัชนี Bloomberg Dollar Spot Index แข็งค่าขึ้น 0.1% ในวันนี้ หลังจากที่ 3 วันทำการที่ผ่านมาแข็งค่าขึ้นไปแล้วกว่า 0.7%

ขณะที่นักลงทุนให้ความน่าจะเป็นที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. นี้ที่ 28% ส่วนเดือน ธ.ค. อยู่ที่ 54%


ทั้งนี้ความผันผวนของตลาดอัตราแลกเปลี่ยนนั้นเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับสูงขึ้นในรอบ 1 ปี โดยดัชนี JP Morgan Global FX Volatility Index ซึ่งเป็นมาตรวัดความผันผวนของตลาดอัตราแลกเปลี่ยน เพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับ 10.22%



ราคาน้ำมันดิบหดตัวลงในวันนี้

ราคาน้ำมันดิบหดตัวลงในวันนี้ โดยสำนักข่าว Reuters รายงานว่า เกิดจากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯที่ปรับตัวสูงขึ้นมากกว่าคาด และแรงกดดันจากรายงานของทางการจีนที่ระบุว่าต้องการปราบปรามผู้กลั่นน้ำมันรายย่อยซึ่งถูกกล่าวหาว่าเลี่ยงภาษี ซึ่งอาจส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันดิบของจีนลดลง

ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลงในวันนี้ 1.5% สู่ระดับ 47.38 เหรียญ/บาร์เรล


บริษัท เอ็มทีเอส แคปปิตอล จำกัด
10,12,14 ชั้น 3 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200
Copyright © 2014 MTS Capital Co., Ltd. All right reserved