สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 11 เมษายน 2561

ข่าว

สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 11 เมษายน 2561

11 เมษายน 2561

• ดัชนีดอลลาร์เคลื่อนไหวบริเวณ 89.588 จุด ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 89.542 จุด ท่ามกลางความตึงเครียดเกี่ยวกับสงครามการค้าที่ผ่อนคลายลง หลังถ้อยแถลงของ ประธานาธิบดีจีนเมื่อวานนี้

ค่าเงินยูโรทรงตัวที่บริเวณ 1.2360 ดอลลาร์/ยูโร เคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดของวันที่ 28 มี.ค. ที่ระดับ 1.2378 ดอลลาร์/ยูโร

ด้านค่าเงินเยนทรงตัวแถวระดับ 107.05 เยน/ดอลลาร์ หลังจากแข็งค่าลงมา 0.4% เมื่อวานนี้

• ค่าเงินยูโรดูเหมือนจะกลับขึ้นทดสอบระดับแข็งค่ามากที่สุดในเดือนมี.ค. (1.2476 ดอลลาร์/ยูโร) โดยจะเห็นได้ว่าภาพทางเทคนิคมีการทำ Higher highs และ Higher lows จากช่วงต้นสัปดาห์นี้ ขณะที่ RSI ยังคงส่งสัญญาณขาขึ้นจากช่วงต้นปี

อย่างไรก็ดี ค่าเงินยูโรจำเป็นต้องปิดให้ได้เหนือเส้นค่าเฉลี่ย Fibonacci 61.8% ที่ระดับ 1.2370 ดอลลาร์/ยูโร จนถึง 1.2430 ดอลลาร์/ยูโร ซึ่งเป็นระดับเส้นค่าเฉลี่ย 50% แต่ก่อนจะฟื้นตัวก็อาจเห็นทองคำรีบาวน์อยู่ในกรอบได้ ขณะที่แนวโน้มระยะสั้นๆยังคงอาจมีการย่อตัวในกรอบปี 2018 ได้ ขณะที่แนวต้านสำคัญของค่าเงินยูโรจะอยู่ที่ 1.2540 ดอลลาร์/ยูโร ซึ่งเป็นระดับเส้นค่าเฉลี่ย Fibonacci 38.2%

• นักวิเคราะห์จาก DailyFX ชี้ว่า เราอาจเห็นท่าทีคุมเข้มทางการเงินของเฟดได้ในการประชุมวาระถัดไปคือ 4 พ.ค. หากข้อมูลเงินเฟ้อมีเกณฑ์ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 2% ตามเป้าหมายที่เฟดกำหนด ซึ่งหากข้อมูล CPIและ Core CPI ของสหรัฐฯออกมาดีขึ้นก็อาจหนุนให้เฟดตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยต่อได้ในปีนี้ ภายใต้การดำเนินการของ นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟดคนปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม หากข้อมูลดังกล่าวออกมาในเชิงลบก็อาจกดดันค่าเงินดอลลาร์ในทิศทางอ่อนค่า และจะจำกัดภาวะการคุมเข้มทางการเงินของเฟดได้ ท่ามกลางเฟดที่ยังคงแนวโน้มคาดการณ์ดอกเบี้ยในปีนี้ไว้ที่ 2.75 - 3.00% เนื่องจากเงินเฟ้อที่ยังคงอ่อนตัว

• รายงานจาก Reuters ระบุว่า ทนายความประจำตัวนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งก็คือนายไท คอบบ์ และนายโดนัลด์ แมคกาห์น ทั้ง 2 คน ได้พยายามโน้มน้าวไม่ให้นายทรัมป์ใช้อำนาจสั่งปลดนายโรเบิร์ต มูลเลอร์ ออกจากตำแหน่งหัวหน้าคณะสืบสวนพิเศษ เนื่องจากหากทำเช่นนั้น อาจทำให้นายทรัมป์ถูกฟ้องร้องกลับในข้อหาขัดขวางกระบวนการยุติธรรมได้

ทั้งนี้ นายทรัมป์ดูเหมือนจะมีท่าทีไม่พึงพอใจอย่างมากเกี่ยวกับการที่นายไมเคิล โคเฮน ทนายความประจำตัวของเขา ถูก FBI บุกค้นออฟฟิสและที่พักของเขา แต่การดำเนินการขั้นต่อไปของนายทรัมป์ยังคงไม่มีความชัดเจน

• นายคริสทีน ลาการ์ด ประธาน IMF ประเมินว่า เศรษฐกิจโลกยังสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง แต่ได้เตือนว่า ปัจจัยที่ช่วยหนุนการเติบโตกำลังเริ่มจางหายไป ประกอบกับสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากทั่วโลกที่อาจเป็นปัจจัยกดดันการเติบโตได้

นอกจากนี้ เธอยังได้ขอความร่วมมือจากนานาประเทศให้หลีกเลี่ยงการใช้นโยบายกีดกันทางการค้ให้ได้มากที่สุด พร้อมแนะนำให้จับตาประเด็นความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯในช่วงนี้อย่างใกล้ชิด

• นายมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ประธานบริษัท Facebook เมื่อคืนที่ผ่านมา ได้เข้าให้ปากคำต่อรัฐสภาสหรัฐฯทั้ง 2 สภา เกี่ยวกับกรณีที่ Facebook มีการปล่อยให้บัญชีผู้ใช้งานถูกเข้าถึงได้โดยไม่เหมาะสมเป็นจำนวนกว่าหลายล้านบัญชี

โดยนายมาร์คยังคงสามารถปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือกับรัฐสภาเพื่อออกนโยบายใหม่ที่จะเข้ามาควบคุมบริษัทที่ให้บริการทางอินเทอร์เน็ต ส่งผลให้หุ้น Facebook สามารถปรับสูงขึ้นได้อย่างเป็นประวัติการณ์กว่า 4.5% ท่ามกลางความพึงพอใจของบรรดานักลงทุนที่มีต่อการให้การของนายมาร์ค

• ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานรายปีของญี่ปุ่นขยายตัวได้ 2.1% ในเดือน มี.ค. ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 แต่ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวได้ 2.6%

โดยยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานสามารถขยายตัวได้ท่ามกลางแรงหนุนจากปริมาณคำสั่งซื้อเครื่องจักรที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มผู้ผลิต จึงเป็นการส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นยังคงมีปริมาณการลงทุนที่แข็งแกร่ง ที่จะสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจในภาพรวม

นอกจากนี้ รายงานยังได้ระบุอีกว่า ราคาสินค้าขายส่งภายในประเทศขยายตัวได้ด้วยอัตราที่ลดลงในเดือน มี.ค. ที่ระดับ 2.1% เทียบกับระดับ 2.6% ในเดือน ก.พ. แต่มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 2.0%

• ผลการประกาศข้อมูลเงินเฟ้อจีนชะลอตัวลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 โดยดัชนีราคาผู้บริโภคจีน (CPI) ร่วงลงจากระดับสูงสุดรอบ 4 ปี โดยอ่อนตัวลงมาที่ระดับ 2.1% ในเดือนมี.ค. จากระดับ 2.9% ในเดือนก่อนหน้า ทางด้านดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ขยายตัวได้ 3.1% ในเดือนนี้เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า

โดยการชะลอตัวดังกล่าวได้ถูกจำกัดจากหนุนจากทิศทางการดำเนินนโยบายทั่วโลก ท่ามกลางภาวะตึงเครียดทางการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้นและได้เข้ากดดันต่อิศทางการขยายตัวทางเศรษฐกิโลก อย่างไรก็ดี ดัชนี CPIของจีน ยังคงถูกคาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นได้ในปีนี้ แม้ว่าจะต้องเผชิญกับการถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเพิ่มจากจีน ไม่ว่าจะเป็นสินค้าชั้นนำอย่างถั่วเหลือง ตลอดจนรถยนต์ เพื่อหนุนให้เงินเฟ้อปรับตัวขึ้

• ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงจากระดับสูงเป็นประวัติการณ์ในปี 2014 ท่ามกลางความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น จึงกดดันการเพิ่มขึ้นของสต็อกน้ำมันดิบและปรมิาณการผลิตในสหรัฐฯ

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ Brent ร่วงลง 0.3% ที่ระดับ 70.80 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับร่วงลง 0.2% ที่ระดับ 65.40 เหรียญ/บาร์เรล

บริษัท เอ็มทีเอส แคปปิตอล จำกัด
10,12,14 ชั้น 3 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200
Copyright © 2014 MTS Capital Co., Ltd. All right reserved