สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 25 เมษายน 2561

ข่าว

สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 25 เมษายน 2561

25 เมษายน 2561
 

• ค่าเงินดอลลาร์และค่าเงินยูโรอยู่ในระดับทรงตัววานนี้ หลังจากที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีปรับขึ้นเหนือระดับแนวต้านสำคัญทางจิตวิทยาบริเวณ 3% ขึ้นมาได้

ดัชนีดอลลาร์ปรับขึ้นไปทำ High รอบ 3 เดือน บริเวณ 91.076 จุด เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลหลักส่วนใหญ่ โดยได้รับอานิสงส์หลักจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯนั่นเอง และการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์วานนี้ได้ฉุดให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงไปทำระดับต่ำสุดรอบ 2 เดือน จากความกังวลที่ว่าการเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ จะบั่นทอนภาวะอุปสงค์การถือครองพันธบัตรในภูมิภาคและตลาดหุ้น จากกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่มีการถือครองค่าเงินยูโรแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

นอกจากนี้ นักลงทุนบางส่วนยังคงมีท่าทีระมัดระวังการซื้อขายในค่าเงินยูโร ก่อนทราบผลประชุมอีซีบีในคืนวันพรุ่งนี้ ที่อาจกดดันให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่าได้ เนื่องจากดูเหมือนอีซีบีจะมีท่าทีกังวลต่อข้อมูลเศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่ยังน่าผิดหวังอยู่

ทั้งนี้ ค่าเงินยูโรที่ทรงตัวแถวระดับ 1.22 ดอลลาร์/ยูโร กลับปรับลงมาทำระดับอ่อนค่ามากที่สุดนับตั้งแต่ 1 มี.ค. บริเวณ 1.218 ดอลลาร์/ยูโร

ค่าเงินเยนปรับอ่อนค่าขึ้นไปทำระดับสูงสุดบริเวณ 109.19 เยน/ดอลลาร์ ก่อนจะปรับแข็งค่าลงมาเล็กน้อยแถว 108.7 เยน/ดอลลาร์ ซึ่งโดยภาพรวมการเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯส่งผลให้ค่าเงินตลาดเกิดใหม่และตลาดพันธบัตรปรับตัวลดลง โดยเฉพาะในตลาดเอเชีย

• ผลการประกาศดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯประจำเดือนเม.ย. โดยรีบาวน์กลับขึ้นมา ประกอบกับยอดขายบ้านใหม่ที่พุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนมี.ค. จึงยังบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯมีความแข็งแกร่ง แม้ในไตรมาสแรกจะมีสัญญาณชะลอตั

ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับขึ้นเกินคาดมาที่ 128.7 จุด ขณะที่เดือนก่อนหน้าปรับทบทวนลดลงมาที่ 127 จุด และรายงานยอดขายบ้านใหม่ปรับขึ้น 4% แตะระดับ 694,000 ยูนิตในเดือนมี.ค. หลังยอดขายบ้านพุ่งขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 11 เดือน

• นายโดนัดล์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงความต้องการที่จะถอนกำลังทหารของสหรัฐฯออกจากซีเรียในเร็วๆนี้ พร้อมกล่าวเสริมว่า การเจรจาวิกฤตในประเทศซีเรียจะเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณาข้อตกลงใดๆกับทางอิหร่านด้วย

• ขณะที่การพบกับระหว่าง ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และประธานาธิบดีฝรั่งเศสเมื่อวานนี้ได้ให้คำมั่นร่วมกันที่จะหามาตรการที่มั่นคง อันหมายรวมถึงมาตรการนิวเคลียร์ต่อทางอิหร่าน และนายทรัมป์ ไม่ได้กล่าวย้ำถึงการจะถอนตัวออกจากข้อตกลงกับอิหร่านฉบับปี 2015 ซึ่งเป็นสนธิสัญญาที่ทำในยุคของประธานาธิบดีโอบามา แต่ก็มีสัญญาณเพียงเล็กน้อยเท่านั้นในการที่จะยังอยู่ในข้อตกลงดังกล่าว

ทั้งนี้ นายเอมมานูเอล มาครอง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ได้เดินทางมายังสหรัฐฯในช่วงสัปดาห์นี้ เพื่อโน้มน้าวให้นายทรัมป์พิจารณาไม่ถอนสหรัฐฯออกจากข้อตกลงดังกล่าวกับอิหร่าน ซึ่งสามารถเจรจาโน้มน้าวสำเร็จเมื่อคืนที่ผ่านมา ส่วนประกาศอย่างเป็นทางการน่าจะเกิดขึ้นภายใน 3 สัปดาห์ต่อจากนี้

• สัญญาณล่าสุดจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ เกี่ยวกับข้อตกลง NAFTA ที่อาจตกลงกันได้เร็วๆนี้ ท่ามกลางแคนาดาที่มีการยอมรับเงื่อนไขใหม่ต่อภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ ขณะที่ทางเม็กซิโก กล่าวว่า ข้อตกลงฉบับใหม่จะขึ้นอยู่กับความยืดหยุ่นในการเจรจาด้วย

• รัฐบาลเยอรมนีปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจปีนี้ จากกระแสคาดการณ์ที่ว่าเศรษฐกิจจะเผชิญความผันผวนและสูญเสียภาวะการขยายตัวในขณะนี้ โดยคาดว่าปีนี้จะขยายตัวได้ 2.3% ซึ่งลดลงจากประมาณการณ์ครั้งก่อนที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 2.4% แต่ภาพรวมของคาดการณ์ดังกล่าวก็ยังคงเป็นอัตราการขยายตัวที่มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2011

• ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง หลังตลาดคลายความกังวลจากการที่สหรัฐฯจะถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่าน โดยน้ำมันดิบ Brent ปิดลดลง 85 เซนต์ คิดเป็น -1.1% ที่ระดับ 73.86 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่ช่วงต้นตลาดไปทำ High นับตั้งแต่พ.ย. ปี 2014 บริเวณ 75.47 เหรียญ/บาร์เรล ทางด้านน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 94 เซนต์ ที่ระดับ 67.7 เหรียญ/บาร์เรล 
บริษัท เอ็มทีเอส แคปปิตอล จำกัด
10,12,14 ชั้น 3 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200
Copyright © 2014 MTS Capital Co., Ltd. All right reserved