สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 26 เมษายน 2561

ข่าว

สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 26 เมษายน 2561

26 เมษายน 2561
 

• ค่าเงินดอลลาร์ทำระดับแข็งค่ามากที่สุดในรอบ 4 เดือน โดยได้รับแรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯที่ยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง หลังจากที่ Break 3% ขึ้นมาเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

โดยดัชนีดอลลาร์ปรับขึ้นทำระดับแข็งค่ามากที่สุดนับตั้งแต่ 12 ม.ค. ที่ระดับ 91.241 จุด ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ปรับขึ้นแตะ 3.035% ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการขยายตัวของระดับหนี้รัฐบาลสหรัฐฯ รวมทั้งแรงกดดันเงินเฟ้อจากการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมั

• นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่า กระแสคาดการณ์เกี่ยวกับโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยได้จำนวน 4 ครั้งในปีนี้เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่เครื่องมือ FedWatch ของ CME Group ชี้มีโอกาส 53% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 4 ในเดือนธ.ค.

นอกจากนี้ เครื่องมือ Fedwatch ยังสะท้อนให้เห็นว่า มีโอกาสมากถึง 98.4% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. จากระดับ 1.5-1.75% สู่กรอบ 1.75 -2.0%

• ทางด้านค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงทำระดับอ่อนค่ามากที่สุดรอบ 2 เดือน จากความกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯที่อาจมาลดอุปสงค์พันธบัตรในภูมิภาคด้วย ขณะที่นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่าตลาดน่าจะรอความชัดเจนของการประชุมอีซีบีวันนี้เกี่ยวกับแผนการขึ้นดอกเบี้ย ที่อาจกลับมาหนุนให้ค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าได้ โดยล่าสุดค่าเงินยูโรยังเคลื่อนไหวแถวระดับ 1.21728 ดอลลาร์/ยูโร

• การประชุมอีซีบีในวันนี้ ถูกคาดการณ์ว่าจะยังคงนโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไป โดยอาจลดความกังวลต่อข้อมูลเศรษฐกิจยูโรโซนที่อ่อนตัว และยังเปิดกว้างต่อแนวทางการสิ้นสุดการเข้าซื้อสินทรัพย์ได้ในช่วงสิ้นปีนี้

• ผู้นำเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้จะทำการพบกันเป็นครั้งที่ 3 ของประวัติศาสตร์ หลังจากที่สิ้นสุดสงครามเกาหลีเมื่อปี 1953 โดยในการพบกันครั้งนี้จะพบกันตั้งแต่ช่วงเช้า และการหารืออย่างเป็นทางการน่าจะเริ่มต้นได้ก่อนช่วงเที่ยงวันพรุ่งนี้ เกี่ยวกับระเบียบการต่างๆ, มาตรการความมั่นคง และครอบคลุมไปถึงสื่อต่างๆ

• รายงานสภาพเศรษฐกิจเกาหลีใต้ฟื้นตัวได้ในไตรมาสที่ผ่านมา โดยได้รับแรงสนับสนุนหลักจากภาคการส่งออก รวมทั้งค่าใช้จ่ายจากภาครัฐบาล ขณะที่การอุปโภคบริโภคในภาคเอกชนยังคงมีการชะลอตัว โดยจีดีพีไตรมาสที่ 1/2018 ปรับขึ้นได้ 1.1% จากไตรมาสที่ 4/2017 ที่อยู่ที่ 0.2%

• ตัวแทนจากสหรัฐฯจะมีการประชุมร่วมกับตัวแทนจากประเทศพันธมิตรในกลุ่ม NATO วันศุกร์นี้ ในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม โดยในเบื้องต้นคาดการณ์ว่าทางสหรัฐฯน่าจะเรียกร้องให้ประเทศพันธมิตร โดยเฉพาะเยอรมนี เพิ่มงบประมาณทางการทหาร เพื่อเป็นการกดดันประเทศรัสเซียที่มีความตึงเครียดทางการเมืองมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า นายไมค์ ปอมเปโอ ว่าที่เลขาธิการกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ จะเข้าร่วมการประชุมดังกล่าวด้วยหรือไม่

• ราคาน้ำมันดิบ Brent ปิดปรับขึ้น 14 เซนต์ ที่ระดับ 74 เหรียญ/บาร์เรล โดยราคาระหว่างวันเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับสูงสุดที่ทำไว้เมื่อวันอังคารบริเวณ 75.47 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่พ.ย. ปี 2014 ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดปรับขึ้น 35 เซนต์ ที่ระดับ 68.05 เหรียญ/บาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น แม้ว่าข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯจะปรับตัวขึ้น ท่ามกลางสัญญาณตึงเครียดทางการเมืองต่อแนวโน้มการคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่ หลังจากที่ประธานาธิบดีฝรั่งเศสพยายามเรียกร้องให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯพิจารณาข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน ที่นายทรัมป์ดูจะไม่พอใจต่อข้อตกลงฉบับเดิม แต่จะยังคงอยู่ในข้อตกลงฉบับนี้ต่อไปจนกว่าจะมีฉบับใหม่มาทดแทน ซึ่งนายทรัมป์จะทำการตัดสินใจอีกครั้งในวันที่ 12 พ.ค.นี้ ว่าสหรัฐฯจะปรับทบทวนข้อตกลงมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านครั้งใหม่ ที่อาจนำไปสู่ก้าวแรกในการสิ้นสุดข้อตกลงได้เช่นกัน

บริษัท เอ็มทีเอส แคปปิตอล จำกัด
10,12,14 ชั้น 3 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200
Copyright © 2014 MTS Capital Co., Ltd. All right reserved