อย่างไรก็ดี ราคาทองคำตลาดโลกปรับขึ้นต่อมายืนเหนือ 1,220 เหรียญ หลังจากที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงความไม่พอใจต่อเฟดรวมทั้งนโยบายการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด โดยระบุว่า เฟดอาจเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ การแสดงความคิดเห็นของนายทรัมป์ เกิดขึ้นหลังจากที่นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟดได้กล่าวแถลงการณ์การดำเนินนโยบายครึ่งปีในช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่มีการส่งสัญญาณต่อสภาวะเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมทั้งการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในช่วงที่เหลือของปี
• กองทุน SPDR เมื่อวานนี้ทำการซื้อทองคำเข้า 4.12 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 798.13 ตัน
• ผู้อำนวยการสมาคมที่ปรึกษากองทุน ETFs ระบุว่า ทองคำน่าจะถูกกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ต่อไป ท่ามกลางการขยายตัวทางเศรษฐกิจและรายงานผลประกอบการภาคบริษัทที่แข็งแกร่ง และดูเหมือนทองคำจะไม่ใช่สินทรัพย์ปลอดภัยในขณะนี้ แม้ว่าภาวะ Trade War จะยังดำเนินไปก็ตาม
• นักวิเคราะห์จาก MKS PAMP กล่าวว่า ราคาทองคำหากหลุดแนวรับแรก 1,221 เหรียญ ก็มีโอกาสกลับลงไปแถวระดับแนวรับสำคัญทางจิตวิทยาที่ 1,200 เหรียญ ขณะที่แนวต้านจะอยู่ที่ 1,229 เหรียญ และแนวต้านถัดไปคือจุดสูงสุดเดิมของสัปดาห์นี้บริเวณ 1,245 เหรียญ
• นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงความเห็นว่า สหรัฐฯอาจยกเลิกข้อตกลงทางการค้ากับเม็กซิโก ตามมาด้วยแคนาดา จึงส่งสัญญาณถึงความไม่แน่นอนครั้งใหม่ของข้อตกลง NAFTA ในอนาคต
• รายงานจากสภาทองคำโลกหรือ World Gold Council (WGC) ระบุว่า อุปสงค์ทองคำในช่วงครึ่งปีหลังอยู่ในทิศทางเชิงบวก ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่มีการฟื้นตัว ขณะที่ประเด็นTrade War ดูจะส่งผลกระทบกับค่าเงินและการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อ และการปรับอ่อนตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ทั้งหมดนี้ดูจะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำในช่วงครึ่งปีหลัง
อย่างไรก็ดี ราคาทองคำปรบตัวขึ้นได้กว่า 4% ในช่วงแรกๆของปีนี้ ก่อนจะปรับตัวลงมาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งเดือนก.ค.นี้ ซึ่งจะเห็นได้ถึงความผันผวนของราคาในช่วงก.พ. และเม.ย. ที่คเคลื่อนไหวในกรอบก่อนจะปรับตัวล