ความคืบหน้าล่าสุด เกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ คือเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งสหรัฐฯได้เปิดเผยรายชื่อสินค้าจากประเทศจีนกลุ่มต่อไปที่จะถูกปรับขึ้นภาษีนำเข้าเป็นมูลค่าอีก 2 แสนล้านเหรียญ ขณะที่ทางจีน การตอบโต้ครั้งที่ผ่านๆมาเป็นเพียงแค่การขึ้นภาษีตอบโต้ด้วยมูลค่าภาษีที่เท่าเทียมกันเท่านั้น ดังนั้นขณะที่สหรัฐฯกำลังมีแผนที่จะขึ้นภาษี จีนอาจใช้มาตรการที่แตกต่างและรุนแรงมากกว่าเพื่อตอบโต้กับสหรัฐฯ ดังต่อไปนี้   

 

1. หยุดซื้อพันธบัตรสหรัฐฯ

จีนถือเป็นผู้ซื้อพันธบัตรของสหรัฐฯรายใหญ่ที่สุด โดยมีการถือครองพันธบัตรสหรัฐฯสูงถึง 1 ล้านล้านเหรียญในปี 2017 เพื่อใช้สำหรับเป็นเงินตราต่างประเทศสำรอง อย่างไรก็ตาม หากจีนถูกกดดันมากเกินไป รัฐบาลจีนอาจตัดสินใจเทขายหรือหยุดการเข้าซื้อพันธบัตรเพิ่มเติม ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่นักวิเคราะห์ได้กล่าวไว้ว่า “รุนแรงพอๆกับระเบิดนิวเคลียร์ในเชิงเศรษฐกิจเลยทีเดียว”  

 

2. ทำให้เงินหยวนอ่อนค่า

นักวิเคราะห์ได้ประเมินว่านี่อาจเป็นมาตรการที่เหมาะสมที่สุดเท่าที่จีนจะสามารถใช้รับมือกับนโยบายภาษีของสหรัฐฯได้ โดยจีนอาจใช้วิธีการลดอัตราดอกเบี้ยลง เพื่อให้เงินหยวนอ่อนค่า ซึ่งจะทำให้จีนที่มีการส่งออกสูงได้เปรียบในภาวะที่มีภาษีนำเข้า และลดผลกระทบที่จะเกิดจากภาษีลง

 

3. กดดันบริษัทสัญชาติสหรัฐฯ

รัฐบาลจีนมีตัวเลือกมากมายที่จะทำให้ประชาชนชาวจีนปฏิเสธที่จะทำธุรกิจร่วมกับสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็นการสั่งห้ามประชาชนของตนเองเดินทางไปท่องเที่ยวในสหรัฐฯ หรือหยุดซื้อสินค้าของสหรัฐฯ รัฐบาลจีนก็สามารถทำได้ ยกตัวอย่างเมื่อตอนเกาหลีใต้ตัดสินใจให้สหรัฐฯสามารถติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธลงในแผ่นดินของตน จะเห็นได้ว่าบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ของเกาหลีใต้สูญเสียส่วนแบ่งตลาดในประเทศจีนลงอย่างเห็นได้ชัด หรืออย่างตอนที่ฮ่องกงมีการประท้วงเพื่อขอเป็นเอกราชจากจีน จะเห็นได้ว่าการท่องเที่ยงของชาวจีนสู่ฮ่องกงลดลงไปอย่างมาก ทั้ง 2 ตัวอย่างที่ยกมานี้ รัฐบาลจีนไม่มีการเข้าแทรกแซงด้วยการออกนโยบายห้ามซื้อขายหรือห้ามเดินทางแม้แต่น้อย แต่ประชาชนจีนก็พร้อมใจที่จะคว่ำบาตรประเทศเหล่านั้นด้วยตัวเอง

 

4. เลิกติดต่อกับสหรัฐฯ

จีนอาจเลือกที่จะเล่นเกมแห่งการรอคอย เนื่องจากนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ไม่มีข้อจำกัดเรื่องระยะเวลาที่เขาจะสามารถคงอยู่ในอำนาจได้ ซึ่งหมายความว่าจีนจะใช้ข้อได้เปรียบนี้เดินหน้าเจรจาการค้ากับประเทศอื่นๆแทน ซึ่งจะเห็นได้ว่าตอนนี้ จีนได้มีการร่างสนธิสัญญาการค้าร่วมกับยุโรป รวมทั้งแคนาดาที่จะมีการเจรจาการค้าร่วมกับจีนในเร็วๆนี้

ที่มา: CNBC