·         ราคาทองคำปรับตัวลงจากกลุ่มนักลงทุนที่หันเข้าถือครองสินทรัพย์เสี่ยงมากกว่าสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ จากความคาดหวังเกี่ยวกับการเจรจาครั้งใหม่ระหว่างจีนและสหรัฐฯที่จะเกิดขึ้น จึงเห็นราคาทองคำตลาดโลกอ่อนตัวจากที่ไปทำระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 28 ส.ค. บริเวณ 1,212.49 เหรียญ ลงมาปิดตลาด -0.3% ที่ระดับ 1,202.30 เหรียญ ทางด้านสัญญาทองคำส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดลดลง 2.7 เหรียญ คิดเป็น -0.2% ที่ระดับ 1,208.2 เหรียญ

·         กองทุน SPDR เมื่อวานนี้ ขายทองคำออก 2.65 ตัน ปัจจุบันถือครอง 742.53 ตัน

·         นักวิเคราะห์จาก TIAA Bank กล่าวว่า ราคาทองคำเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวไม่สัมพันธ์กับค่าเงินดอลลาร์ โดยจะเห็นได้ว่าค่าเงินดอลลาร์มีการอ่อนตัว แต่ราคาทองคำก็ไม่ได้ปรับตัวสูงขึ้น และยิ่งดูเหมือนว่าความเชื่อมั่นในตลาดทองคำจะค่อนข้างเป็นเชิงลบอย่างมาก

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลหลักส่วนใหญ่ หลังข้อมูล CPI สหรัฐฯปรับตัวขึ้นได้น้อยกว่าที่คาดการณ์ในเดือนส.ค. จึงทำให้นักลงทุนปรับลดมุมมองการขยายตัวของเงินเฟ้อสหรัฐฯลง แต่การอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์ที่เกิดขึ้นดูจะไม่ได้ช่วยหนุนให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นได้ ซึ่งข้อมูล CPI ที่ออกมาแย่นั้นก็ดูจะไม่บั่นทอนโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด โดยตลาดยังคงคาดการณ์เป็นวงกว้างว่าจะเห็นเฟดขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้

·         สำหรับการเจรจาการค้านั้น เจ้าหน้าที่อาวุโสสหรัฐฯมีการส่งจดหมายเชิญไปยังเจ้าหน้าที่ของจีนเพื่อกลับมาเจรจาการค้ากันอีกครั้ง จึงทำให้เกิดกระแสคาดการณ์เพิ่มขึ้นว่าสหรัฐฯอาจมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าได้

·         เป็นระยะเวลาหลายเดือนที่สหรัฐฯและจีนมีปัญหาทางการค้า และทำให้นักลงทุนเลือกเข้าซื้อค่าเงินดอลลาร์ เนื่องจากเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะได้รับผลกระทบน้อยกว่าประเทศคู่ค้า ในขณะที่ราคาทองคำเผชิญกับการถือครองสถานะ Short ในตลาดComex มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่กองทุน ETF มีการปิดสถานะหรือขายทองออกมา

·         ราคาซิลเวอร์ปิดทรงตัวที่ 14.21 เหรียญ หลังจากที่ช่วงต้นตลาดแตะระดับสูงสุดรอบ 9 วันทำการที่ 14.34 เหรียญ ด้านราคาแพลทินัมปรับตัวขึ้น 0.3% ที่ระดับ 800.74 เหรียญ หลังทำ High รอบ 1 เดือนบริเวณ 812.3 เหรียญ และราคาพลาเดียมปิด +0.9% ที่ระดับ 983.5 เหรียญ