·         ราคาทองคำปรับตัวลดลง เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ และการปรับขึ้นของตลาดหุ้น โดยราคาทองคำอ่อนตัวลงไป 0.13% ที่ 1,280.3 เหรียญ ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนก.พ. ปิดลดลง 4.2 เหรียญ ที่ระดับ 1,279.8 เหรียญ

·         ผู้อำนวยการจาก Metals Focus กล่าวว่า ตลาดไม่เชื่อว่าทองคำจะหมดพลัง และยังมองว่าทองคำจะยังยืนเหนือ 1,300 เหรียญ แม้ค่าเงินดอลลาร์ยังมีความแข็งค่า แต่ความผันผวนที่เกิดขึ้นในระยะสั้นจะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ดีสำหรับการเข้าซื้อทองคำในฐานะSafe Haven จากความปั่นป่วนในตลาดการเงินนั่นเอง

·         นักวิเคราะห์จาก Capital Economics ระบุว่า ปัจจัยจากภาวะเศรษฐกิจระดับมหภาคถือเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำเพิ่ม และสิ่งเหล่านี้น่าจะยังเป็นปัจจัยที่หนุนให้เกิดความต้องการทองคำอย่างต่อเนื่องในปีนี้ และในช่วงสิ้นปีคาดว่ามีโอกาสจะเห็นทองคำไต่ระดับไปถึง 1,350 เหรียญได้ ขณะที่เม็ดเงินของกลุ่มนักลงทุนมีการไหลเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง จากมุมมองที่ว่าตลาดหุ้นจะร่วงลงต่อและเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัว

·         ราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้กว่า 10% นับตั้งแต่ที่ไปทำระดับต่ำสุดรอบ 1 ปีครึ่งในช่วงกลางเดือนส.ค. จากกลุ่มนักลงทุนที่ลดการถือครองสินทรัพย์เสี่ยง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ขณะที่เฟดมีแนวโน้มจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยควบคู่กับภาวะ Shutdown สหรัฐฯที่ยังดำเนินไปเป็นเวลานาน

·         นายเควิน ฮาสเซต ที่ปรึกษาทำเนียบขาวของสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNN โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯอาจไปสู่ระดับการขยายตัว 0% ในช่วง 3 เดือนแรกของปีได้ หากภาวะ Shutdown ยังคงดำเนินไปตลอดไตรมาสแรก

·         นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจากรอยเตอร์ส มองว่า ราคาทองคำมีโอกาสกลับทดสอบแนวรับ 1,278 เหรียญ หากหลุดลงมามีโอกาสเห็นทองคำกลับทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1,266 เหรียญ

·         กองทุน SPDR เมื่อวานนี้ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 809.76 ตัน

·         ราคาพลาเดียมปิด -2.15% ที่ระดับ 1,318 เหรียญ ขณะที่ราคาซิลเวอร์ปิด -0.53% ที่ระดับ 15.27 เหรียญ และราคาแพลทินัมปิด +0.31% ที่ 796.5 เหรียญ