ดัชนี PMI เดือน ก.ค. ของยูโรโซน ที่จัดทำโดย Markit Economics จะประกาศออกมาในช่วงบ่ายเวลา 15.00 น. วันนี้ ตามเวลาประเทศไทย โดยคาดการณ์ว่าดัชนี PMI จะชะลอตัวลงสู่ระดับ 52.1 จุดในเดือน ก.ค. จากเดิมที่ 52.2 ในเดือน มิ.ย. สำหรับดัชนี PMI ภาคอุตสาหกรรมถูกคาดว่าจะประกาศออกมาทรงตัวที่ 47.6 จุด ส่วนภาคบริการถูกคาดว่าจะชะลอตัวลงสู่ระดับ 53.3 จุด จากเดิม 53.6 จุด



การชะลอตัวของเศรษฐกิจยูโรโซน

เศรษฐกิจยุโรปที่อ่อนแอยังสามารถยืนหยัดอยู่ได้ท่ามกลางความแข็งแกร่งของภาคบริการ ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมกลับชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือน ก.พ. และดัชนีก็อยู่ในระดับต่ำกว่า 50 จุดที่บ่งชี้ถึงภาวะการหดตัวของภาคอุตสาหกรรมมาโดยตลอด

ทิศทางข้างหน้าของเศรษฐกิจยูโรโซนก็ดูไม่ค่อยสดใสนัก ท่ามกลางความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการในเยอรมนีที่อ่อนแอลงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษของนายบอริส จอห์นสัน เมือวานนี้ ความกังวลเกี่ยวกับภาวะ Hard-Brexit จึงเริ่มกลับมารุนแรงอีกครั้ง



สำหรับอิตาลี พรรคร่วมรัฐบาลระหว่างนายมัตเตโอ ซัลวินี และนายลุยจิ ดิ ไมโอ กำลังก่อสงครามเย็นร่วมกับอียู และมีแนวโน้มที่อิตาลีจะจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่ ที่อาจช่วยให้นายซัลวินีมีเสียงสนับสนุนอย่างเป็นเอกฉันท์มากขึ้น นอกจากนี้ เศรษฐกิจยูโรโซนยังเผชิญกับแรงกดดันจากภายนอก อย่างการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และสงครามการค้าระหว่งาสหรัฐฯ-จีน



ด้านอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซน แม้จะขยายตัวได้ดีกว่าที่คาดในเดือน มิ.ย. ที่ 1.3% แต่ยังต่ำกว่าเป้าหมายที่ 2% ขณะที่อัตราว่างงานยังคงทิศทางปรับลดอย่างต่อเนื่อง ส่วนค่าจ้างเฉลี่ยยังอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบทตศวรรษ สอดคล้องกับทิศทางเศรษฐกิจของบรรดาประเทศอุตสาหกรรมอื่นๆ



ECB

นายมาริโอ ดรากี้ ประธานอีซีบีคนปัจจุบัน ได้ส่งสัญญาณว่า อีซีบี สามารถปรับลดดอกเบี้ยลงได้ หากจำเป็นสำหรับการเกื้อหนุนเศรษฐกิจยูโรโซน แต่เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยของอีซีบีอยู่ใกล้ระดับ 0% การปรับลดดอกเบี้ยอาจไม่ส่งผลต่อเศรษฐกิจมากนัก ส่วนการกลับไปใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินแบบพิเศษหรือ QE อาจยิ่งผลักดันให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงติดลบมากขึ้น อีกทั้งผลประโยชน์ของการใช้ QE ท่ามกลางภาวะที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ต่ำกว่าระดับ 0% ก็ไม่สามารถคาดเดาได้ ขณะที่การใช้ QE ครั้งก่อน มีผลเพียงเล็กน้อยกับการขยายตัวของเงินเฟ้อหรืออัตราการเติบโตองเศรษฐกิจ



ในการประชุมของอีซีบีวันพฤหัสบดีนี้ ตลาดไม่คาดการณ์ว่าอีซีบีจะเริ่มปรับลดดอกเบี้ยในทันทีแต่อย่างใด แต่อาจมีการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าจะผ่อนคลายนโยบายการเงิน



ส่วนในเดือน ก.ย. ตลาดจะจับตาการเปิดเผยคาดการณ์เศรษฐกิจอย่างเป็นทางการของอีซีบี และหลังจากนั้นในเดือน พ.ย. นางคริสทีน ลาการ์ด ประธาน IMF คนปัจจุบัน จะเข้ารับตำแหน่งประธานอีซีบีต่อจากนายดรากี้ ซึ่งตลาดเชื่อว่า ทั้ง 2 เดือนที่กล่าวมา จะมีโอกาสได้เห็นทิศทางการดำเนินนโยบายในอนาคตของอีซีบี โดยตลาดเทน้ำหนักไปยังการรับตำแหน่งของนางลาการ์ดมากกว่า



ที่มา: FX Street