เฟดจะเผยผลการประชุมในคืนวันนี้ คาดเฟดอาจส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ย

มีอะไรเกิดขึ้นบ้างในการประชุมครั้งก่อนจนถึงการประชุมครั้งนี้

ในการประชุมครั้งที่ผ่านมา เฟดมีมติเป็นเอกฉันท์ในการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามเดิม เนื่องจากข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯที่ชะลอตัวลงในเดือน พ.ค. ประกอบกับเข้าใกล้การทำประชามติของอังกฤษในการออกจากสหภาพยุโรป

อย่างไรก็ดี ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ข้อมูลการจ้างงานปรับตัวดีขึ้นมากถึงแม้ว่าจะเกิด Brexit ขึ้นก็ตาม ดังนั้นความเป็นไปได้ที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยจึงกลับมาเป็นประเด็นสำคัญอีกครั้ง

สรุปการประชุมจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร?

นักเศรษฐศาสตร์จาก Standard Chartered Bank ระบุว่า สรุปการประชุมเมื่อเดือน มิ.ย. นั้น ระบุว่า “พัฒนาการของตลาดแรงงานนั้นชะลอตัวลง” และ “การเพิ่มขึ้นของงานนั้นได้ลดน้อยถอยลงไป” อย่างไรก็ดี จากรายงานล่าสุดที่ยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯออกมาที่ระดับ 287,000 ตำแหน่ง สรุปการประชุมน่าจะกล่าวถึงพัฒนาการทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นจากยอดค้าปลีกและตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง

นายกฯญี่ปุ่น ระบุ รัฐบาลจะออกแผนกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวนมากกว่า 2.65 แสนล้านเหรียญ

ถ้อยแถลงของนายอาเบะนั้นเกิดขึ้นก่อนการประชุมบีโอเจเพียงเล็กน้อย ซึ่งตลาดคาดว่าบีโอเจจะผ่อนคลายมาตรการทางการเงินเพิ่มขึ้น

นักวิเคราะห์จาก Mitsubishi UFJ Morgan Stanley Securities ระบุว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะอัดฉีดเม็ดเงินขนาดนั้นเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเพียงก้อนเดียว ดังนั้นจึงคาดว่าต้องใช้เวลาหลายปีในการค่อยๆอัดฉีดเงินเข้ามาในระบบ นอกจากนี้คาดว่าบีโอเจน่าจะต้องออกนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม รวมถึงการเพิ่มมาตรการ QE ซึ่งช่วยให้รัฐบาลญี่ปุ่นสามารถออกพันธบัตรใหม่ๆได้มากขึ้น

สำนักข่าว Wall Street Journal รายงานว่า ญี่ปุ่นกำลังพิจารณาออกพันธบัตรรัฐบาลอายุ 50 ปี ซึ่งนับเป็นพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นที่มีอายุมากที่สุดนับตั้งแต่สิ้นสุดยุคสงคราม เพื่อใช้ประโยชน์จากการที่ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำมากจากนโยบายผ่อนคลายทางการเงินของบีโอเจ

อย่างไรก็ดี รัฐมนตรีการคลังของญี่ปุ่น ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าวแล้ว

ผลกำไรของธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมจีนเติบโตมากที่สุดในรอบ 3 เดือน

สมาชิกบีโออีระบุ ควรออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจทันที

ราคาน้ำมันดิบทรงตัวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน

น้ำมันดิบ BRENT ปรับตัวลดลง 6 เซนต์ ที่ระดับ 44.81 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลง 5 เซนต์ ที่ระดับ 42.87 เหรียญ/บาร์เรล

ธนาคารโลกได้ปรับเพิ่มการคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในรายงาน Commodities Markets Outlook เนื่องจากมองว่าอุปทานน้ำมันชะงัก ขณะที่อุปสงค์แข็งแกร่งในไตรมาสที่ 2 โดย ธนาคารโลกคาดว่า ราคาน้ำมันดิบจะแตะที่ระดับ 43 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มขึ้นจากระดับ 41 ดอลลาร์/บาร์เรล ในการคาดการณ์เมื่อเดือนเม.ย.