สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 28 กรกฎาคม 2559

ข่าว

สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 28 กรกฎาคม 2559

28 กรกฎาคม 2559

ภาพในบรรทัด 1

เมื่อวานนี้เฟดประกาศคงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามเดิมที่ 0.25%-0.50% ด้วยคะแนน 9-1 เสียง โดยมีเพียงนางเอสเธอร์ จอร์จ ประธานเฟดสาขาแคนซัสซิตี้ ซึ่งเป็นผู้ที่โหวตให้เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาโดยตลาดยกเว้นการประชุมเดือน มิ.ย. เพียงคนเดียวเท่านั้นที่โหวตให้เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้

สรุปการประชุมของเฟด บ่งชี้ว่า เฟดมีความกังวลต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯน้อยลง

เฟดได้ระบุว่า ในระยะสั้นความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯได้ลดน้อยลงไป และเฟดมีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้

ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯที่ขยายตัวได้ในระดับปานกลาง, ตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งขึ้นในเดือน มิ.ย., การใช้จ่ายภาคครัวเรือนขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง และอัตราการมีส่วนร่วมของกำลังแรงงานที่เพิ่มสูงขึ้น

พร้อมกันนี้เฟด ระบุว่า จะติดตามข้อมูลอัตราเงินเฟ้อและพัฒนาการทางเศรษฐกิจและการเงินอย่างใกล้ชิด

หลังทราบผลการประชุม นักลงทุนในตลาดคาดการณ์ว่าโอกาสที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในเดือน ธ.ค. ปีนี้นั้นลดลงจากระดับ 51.5% ในคืนวันอังคารสู่ระดับ 42.7% เมื่อคืนนี้

นักวิเคราะห์จากแฟรงคลิน เทมเพิลตัน (Franklin Templeton) ระบุว่า ถ้อยแถลงดังกล่าวมีมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯมากขึ้น และมีโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยภายในปีนี้


ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังเฟดเผยรายงานการประชุมดังกล่าว อย่างไรก็ดี แม้ถ้อยแถลงของเฟดจะมีมุมมองที่ดีขึ้น แต่ก็ไม่สามารถทำให้นักลงทุนเชื่อว่าเฟดจะสามารถขึ้นดอกเบี้ยได้เร็วขึ้นได้

ในวันนี้ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวลดลง 0.45% สู่ระดับ 96.61 จุด


ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ ปรับตัวลดลงลงในเดือนมิ.ย. โดยหดตัวลง -4.0% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2014 ลดลงต่อเนื่องจากเดือนก่อนที่หดตัว -2.8% ทั้งนี้การลดลงดังกล่าวเกิดจากของยอดสั่งซื้อเครื่องบินพาณิชย์ที่ร่วงลงกว่า 58.8% โดยยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐานที่ไม่รวมภาคการขนส่ง หดตัวลง -0.4%

ยอดบ้านรอปิดการขายสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น 0.2% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ปรับตัวสูงขึ้นน้อยกว่าคาด เนื่องจากสต็อกบ้านที่ขาดแคลน


ราคาน้ำมันดิบเมื่อคืนนี้หดตัวลงต่อเนื่อง หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ หรือ EIA เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง -2.1 ล้านบาร์เรล ส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด

น้ำมันดิบ WTI หดตัวลง -2.3% ปิดที่ระดับ 41.92 เหรียญ/บาร์เรล 



บริษัท เอ็มทีเอส แคปปิตอล จำกัด
10,12,14 ชั้น 3 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200
Copyright © 2014 MTS Capital Co., Ltd. All right reserved